คาร์ร่าฟันธง ‘มาเรสก้า’ ตำแหน่งปลิวซีซั่นหน้า
เจมี่ คาร์ราเกอร์ ออกมามองว่า เชลซี มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเฮดโค้ชอย่าง เอ็นโซ มาเรสก้า ก่อนถึงฤดูกาลหน้า หลังจากเจ้าตัวแอบเหน็บโครงสร้างผู้บริหารของสโมสรแบบมีนัยยะ ในงานแถลงข่าวที่ผ่านมา
หลังเกมที่ เชลซี เปิดบ้านชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันเสาร์ มาเรสก้า ทำเอาหลายคนแปลกใจ เมื่อเขาเผยว่าช่วงก่อนแข่งเกมนี้เป็น “48 ชั่วโมงที่แย่ที่สุด” นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม นั่นยิ่งทำให้เกิดคำถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฝ่ายบริหารกำลังมีปัญหาหรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม คาร์ราเกอร์ ไม่ค่อยเชื่อคำพูดภายหลังที่ มาเรสก้า บอกว่ายังมีความสุขดีกับงานนี้ พร้อมมองว่าความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้วอาจทำให้กุนซือชาวอิตาเลียนมั่นใจเกินไป และอย่าลืมว่าเขาถูกจ้างมาในตำแหน่ง “เฮดโค้ช” ไม่ใช่ “ผู้จัดการทีม”
“ผมไม่คิดว่า มาเรสก้า จะยังเป็นกุนซือเชลซีในฤดูกาลหน้า พอคุณออกมาพูดถึงเจ้าของสโมสรหรือผู้บริหารในที่สาธารณะแบบนี้ มันคือปัญหาใหญ่” คาร์ราเกอร์ อธิบาย
“ผมเป็นแฟนตัวยงของ มาเรสก้า นะ แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะเริ่มมีเกมแย่งอำนาจกันแล้ว และเรื่องแบบนี้ไม่เคยจบสวย โดยเฉพาะกับโค้ช”
อดีตกองหลังลิเวอร์พูลยังเสริมว่า คำพูดกำกวมของ มาเรสก้า ไม่สามารถหลอกใครได้เลย
“มันไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเขาหมายถึงใคร เขาหมายถึงเจ้าของทีมกับผู้อำนวยการกีฬานั่นแหละ”
“นี่เป็นภาพคลาสสิกที่เราเห็นบ่อยในหลายสโมสรยุคนี้ คือมีเฮดโค้ช มีผู้อำนวยการกีฬา ไม่ใช่ผู้จัดการทีมเต็มรูปแบบ”
“ตอนแรกโค้ชก็เข้ามา ยอมรับเงื่อนไขทุกอย่าง แต่พอทำผลงานได้ดี เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองควรมีอำนาจมากขึ้น”
“และต้องยอมรับว่าเขาทำผลงานได้ดีจริง ๆ พาทีมไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก คว้าแชมป์ยุโรป และแชมป์สโมสรโลกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว”
“แน่นอนว่าเขาคงผิดหวังมากที่ เชลซี ไม่ไปซื้อเซ็นเตอร์แบ็คเพิ่มในซัมเมอร์ ทั้งที่ ลีวาย โคลวิลล์ บาดเจ็บหนัก”
“ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผลงานมันเริ่มย้อนกลับมากดดันเขา เขาเลยเลือกจะส่งสารบางอย่างออกสู่สาธารณะ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย”
คาร์ราเกอร์ ยังเปรียบเทียบสถานการณ์ของ มาเรสก้า กับกรณีที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคยออกมาระเบิดอารมณ์ใส่ลิเวอร์พูล ว่าถูกสโมสรโยนความผิดให้ช่วงฟอร์มตก
อดีตแข้งหงส์แดงกล่าวต่อว่า “มันอาจไม่รุนแรงเท่ากัน แต่เป็นสถานการณ์ที่คล้ายกัน ผมไม่ชอบให้ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโค้ชหรือนักเตะ ออกมาพูดเรื่องพวกนี้ในที่สาธารณะ เรื่องแบบนี้ควรคุยกันหลังบ้าน”
“และปัญหาของ มาเรสก้า คือถ้าเขายังเดินเกมแบบนี้ต่อไป สุดท้ายมันจะมีผู้ชนะได้แค่ฝ่ายเดียว และคนนั้นจะไม่ใช่เขา”
อย่างไรก็ตาม คาร์ราเกอร์ ก็ย้ำว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือความสามารถของมาเรสก้า
“สิ่งเดียวที่คุณเอาไปโจมตี มาเรสก้า ไม่ได้เลย คือเรื่องความสามารถในระดับนี้”
“ยังมีคำถามอยู่ว่า รูเบน อโมริม จะรับมือกับโค้ชระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ แต่ผมไม่เคยตั้งคำถามแบบนั้นกับ มาเรสก้า”
“สิ่งที่ มาเรสก้า ทำได้จนถึงตอนนี้ มันทำให้เขามั่นใจพอจะลุกขึ้นมาท้าชนกับเจ้าของทีม หรือผู้อำนวยการกีฬา เพราะเขารู้สึกว่าเขาทำผลงานได้มากพอแล้ว”
ที่มา: soccersuck

