พรีเมียร์ลีกโหวตเปลี่ยนกฎการเงินจาก PSR สู่ SCR
สโมสรในพรีเมียร์ลีกโหวตเห็นพ้องให้เปลี่ยนกฎการเงินจาก PSR มาเป็น SCR โดยจะเริ่มต้นใช้งานตั้งแต่ฤดูกาล 2026-27 เป็นต้นไป
พรีเมียร์ลีกจัดการประชุมขึ้นในวันนี้ที่ลอนดอน (ศุกร์) โดยมีการพูดคุยหลายต่อหลายประเด็นเกี่ยวกับกฎการเงินที่ถูกเสนอขึ้นมาใหม่
ปัจจุบันพวกเขาใช้กฎการเงิน PSR ซึ่งอนุญาตให้สโมสรขาดทุนได้มากสุด 105 ล้านปอนด์ตลอดช่วง 3 ปีหลัง แต่ฤดูกาลนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่ใช้กฎนี้
ผลโหวตออกมา 14 ต่อ 6 เสียงว่าจะเปลี่ยนไปใช้กฎการเงิน SCR (Squad Cost Ratio) ที่จะอนุญาตให้แต่ละสโมสรใช้เงินไปกับการค่าตัว, ค่าเหนื่อยและค่าเอเยนต์ได้มากสุด 85 เปอร์เซนต์จากรายได้ทั้งหมด
กฎ SCR เป็นกฎที่ ยูฟ่า นำมาใช้ก่อนใครโดยพวกเขาอนุญาตให้สโมสรใช้เงินไปกับการซื้อขายและค่าเหนื่อยได้มากสุด 70 เปอร์เซนต์ของรายได้
กฎของ ยูฟ่า จะคิดจากเดือนมกราคมจนถึงธันวาคม แต่สำหรับพรีเมียร์ลีกนั้นจะมีการประเมินการเงินของสโมสรในวันที่ 1 มีนาคมและจะพิจารณาเพิ่มในเดือนตุลาคม
ซัมเมอร์ที่แล้ว ยูฟ่า ลงโทษ เชลซี กับ แอสตัน วิลล่า ปรับเงินรวมกันประมาณ 14.7 ล้านปอนด์หลังทำผิดกฎ SCR ในปี 2024
ส่วนอีกกฎนึงที่ได้รับการโหวตอย่างเป็นเอกฉันท์คือ SSR (sustainability and system resilience) ซึ่งแบ่งออกเป็นสามส่วน โดยส่วนแรกนั้นจะจัดการกับความผันผวนของรายได้สโมสรที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่อีกสองส่วนจะตรวจตราการเงินระยะยาวของสโมสรและประเมินบัญชีงบดุล
อีกหนึ่งกฎที่ต้องลงคะแนนในวันนี้คือ Top to bottom anchoring แต่โดนปัดตกหลังได้รับเสียงโหวตแค่ 7 เสียง กลับกันเสียงคัดค้านมากถึง 12 เสียงและงดออกเสียงอีกหนึ่ง
กฎ Top to bottom anchoring จะกำหนดให้สโมสรใช้จ่ายค่าตัว, ค่าเหนื่อยและค่าเอเยนต์ได้มากสุด 5 เท่าของเงินรางวัลและรายได้จากการถ่ายทอดสดที่สโมสรอันดับสุดท้ายได้รับ
ยกตัวอย่างเช่นของซีซั่นที่แล้ว เซาแธมป์ตัน ที่จบอันดับ 20 รับเงินไป 109.2 ล้านปอนด์ ก็หมายความว่าสโมสรจะใช้เงินได้มากสุด 546 ล้านปอนด์
กฎ Top to bottom anchoring จึงไม่ต่างอะไรกับการกำหนดเพดานค่าใช้จ่ายที่ทุกสโมสรมีเท่ากันหมด ท้ายที่สุดก็โดนปัดตกและจะใช้กฎการเงิน SCR แทน
รายงานก่อนหน้านี้ระบุว่าหากกฎ Top to bottom anchoring ผ่านขึ้นมา พรีเมียร์ลีกก็อาจโดนนักเตะฟ้องร้องอีกเพราะพวกเขาจะถูกจำกัดเพดานค่าเหนื่อย
ที่มา: soccersuck

