‘อิซาค’ ส่อตัวจริงหงส์, ผีขาด ‘มาซราวี’, สิงห์หลังเจ็บเพิ่ม…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568

เบรนท์ฟอร์ด – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (18:30 น.)

เบรนท์ฟอร์ด รอประเมินความพร้อมของ รีส เนลสัน ก่อนว่าจะมีชื่อได้หรือไม่หลังป่วยจนพลาดการลงซ้อมไปสัปดาห์นึง

ขณะที่ ปารีส มาโกม่า กำลังเรียกความฟิตยังไม่พร้อมคืนสนาม เช่นเดียวกับ กุสตาโว่ นูเนส ที่เตรียมเคาะสนิมกับทีมสำรอง

แมนฯ ยูไนเต็ด จะขาด คาเซมิโร่ ไปแน่นอนเพราะติดโทษแบนจากการโดนไล่ออกในเกมก่อน และนัดนี้ก็ยังไม่มี อาหมัด ดิยาลโล่ เนื่องจากคนในครอบครัวเสียชีวิต

พวกเขายังต้องขาด นุสแซร์ มาซราวี เพิ่มอีกคนซึ่งจะต้องพักจนถึงช่วงเบรคทีมชาติเดือนหน้า

เก็บตกสถิติเล็กน้อย

– เบรนท์ฟอร์ด ผ่านการคว้าชัยมา 2 จาก 3 เกมหลังสุดที่เปิดรังเหย้าพบ แมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 1)

– แมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาชัยชนะเกมเยือนไม่เจอมาตลอด 7 นัดหลังสุดในลีก (เสมอ 2 แพ้ 5) นับตั้งแต่นัดชนะ เลสเตอร์ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2

เชลซี – ไบรท์ตัน (21:00 น.)

เอนโซ มาเรสก้า กุนซือ เชลซี ยืนยันว่าจะต้องให้ โคล พัลเมอร์ พักจนถึงเกมทีมชาติเดือนหน้า หลังมีปัญหาเกี่ยวกับขาหนีบรบกวน

พวกเขายังพบปัญหาขาดแนวรับเพิ่มไม่ว่าจะเป็น โทซิน อดาราบิโอโย่ และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า นอกนั้นก็ยังไร้ เลียม ดีแลป กับ ลีวาย โคลวิลล์ ที่พักยาว

กลับกัน ไบรท์ตัน มีข่าวดีเมื่อ มัตส์ วีฟเฟอร์ และ มักซิม เดอ ไคเปอร์ จะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในเกมนี้

แจ๊ค ฮินเชลวูด, ซอลลี่ มาร์ช และ อดัม เว็บสเตอร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวไปตามเดิม

เก็บตกสถิติเล็กน้อย

– ไบรท์ตัน ผ่านการกวาดชัยชนะไปได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุดในลีกที่พบกับ เชลซี (แพ้ 3) หลังจากที่หาชัยชนะไม่ได้เลยตลอดการพบกัน 14 นัดแรก (เสมอ 4 แพ้ 10)

– ถึงอย่างนั้น เชลซี ไร้พ่ายในการเปิดรังเหย้าลงสนามพรีเมียร์ลีก 12 นัดหลังสุด (ชนะ 9 เสมอ 3) แถมเก็บคลีนชีตไปได้ 7 จาก 9 เกมหลังสุดที่ลงเล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์

เบน ฟรีคิกฟันธง : เชลซี ชนะ 3-1

คริสตัล พาเลซ – ลิเวอร์พูล (21:00 น.)

พาเลซ จะมีข่าวดีได้ อิสไมล่า ซาร์ ฟื้นตัวจากอาการเจ็บกลับมาพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ เยเรมี่ ปิโน่ ที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์

ที่เหลือพวกเขายังคงไม่มี ชาดี้ ริอาด กับ ชีค ดูคูเร่ ตามเดิมและ โรแม็ง เอสเซ่ จะต้องเล่นกับทีมสำรองไปก่อน

ลิเวอร์พูล เตรียมจะต้องให้ อเล็กซานเดอร์ อิซาค ออกสตาร์ทเพราะ อูโก้ เอกิติเก้ โดนใบแดงมาจากเกมกลางสัปดาห์

พวกเขาจะไม่มี โจวานนี่ เลโอนี่ เพิ่มอีกคนหลังต้องพักอีกนานเพราะเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด

เก็บตกสถิติเล็กน้อย

– พาเลซ หาชัยชนะพบเพียงแค่เกมเดียวเมื่อลงสนามพบ ลิเวอร์พูล 16 นัดหลังสุดในลีก (เสมอ 3 แพ้ 12) เกมที่ว่าคือการบุกไปชนะ 1-0 ในปี 2024

– ลิเวอร์พูล มีโอกาสกวาดชัยในลีกตลอด 6 นัดแรกของฤดูกาลได้เป็นหนที่ 5 โดยพวกเขาเคยทำได้ในฤดูกาล 1978-79, 1990-91, 2018-19 และ 2019-20

เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0

ลีดส์ ยูไนเต็ด – บอร์นมัธ (21:00 น.)

ลีดส์ พบกับข่าวดีเมื่อ เจย์เด้น โบเกิล กลับมาลงซ้อมได้แล้วและน่าจะพร้อมสำหรับการลงสนามอีกครั้งหากไม่มีปัญหาใดๆ

การฟื้นตัวของ เดเนียล เจมส์ ก็เป็นไปด้วยดีและจะมีการเช็คความพร้อมทีหลัง กระนั้น วิลลี่ ญอนโต้ ยังไม่พร้อมสำหรับการคืนทัพ

ทางด้าน บอร์นมัธ จะต้องรอดูความพร้อมของ ลูวิส คุ๊ก ทีหลังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้หรือไม่หลังกลับมาซ้อมได้บ้างแล้ว

เอเนส อูนาล กับ อดัม สมิธ ยังคงต้องใช้เวลาพักต่อไปเหมือนเดิม นอกนั้นพวกเขาไม่ได้ขาดใครไปเพิ่มเติม

เบน ฟรีคิกฟันธง : บอร์นมัธ ชนะ 2-0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – เบิร์นลี่ย์ (21:00 น.)

แมนฯ ซิตี้ จะมี เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กลับมาฟิตพร้อมสำหรับล่าตาข่ายอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมเมื่อกลางสัปดาห์

มาเตโอ โควาซิช ก็อาจจะกลับมามีชื่ออีกครั้ง หลังถูกปัญหาเจ็บเอ็นร้อยหวายรบกวนมาก่อนหน้านี้ แต่พวกเขายังไม่มี รายาน เชร์กี้, รายาน เอท-นูรี และ โอมาร์ มาร์มูช ตามเดิม

เบิร์นลี่ย์ จะเดินทางไปเยือนโดยที่ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม

กระนั้นพวกเขาต้องตัดสินใจว่า ยาค็อบ บรุนน์ ลาร์เซ่น จะพร้อมสำหรับการกลับมาช่วยทีมหรือยังหลังลงซ้อมตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา

เก็บตกสถิติเล็กน้อย

– แมนฯ ซิตี้ สถิติข่ม เบิร์นลี่ย์ มิดหลังคว้าชัยได้ตลอดการพบกัน 13 เกมหลังสุดในทุกรายการ แถมยิงกระจุย 46 ลูกและเสียเพียงแค่ 2 ประตู

– เบิร์นลี่ย์ หาชัยชนะไม่เจอเลยกับการบุกมาเยือน แมนฯ ซิตี้ 19 หนหลังสุดในลีก (เสมอ 6 แพ้ 13) หนสุดท้ายที่บุกมาคว้าชัยต้องย้อนไปปี 1963

เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-0

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – ซันเดอร์แลนด์ (21:00 น.)

แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือ ฟอเรสต์ คอนเฟิร์มว่า มูริลโล่ จะสลัดอาการเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ดักลาส ลุยซ์ จะพลาดการลงเล่นในเกมนี้ไปหลังต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมในนัดที่เสมอกับ เบติส กลางสัปดาห์

ทางด้าน ซันเดอร์แลนด์ จะไม่มี ฮาบิบ ดิยาร์ร่า ให้ใช้งานไปจนถึงเดือนธันวาคมเพราะพบกับอาการบาดเจ็บ

นักเตะอีกคนที่จะพลาดการลงเล่นคือ เรนิลโด้ มันดาว่า เพราะติดโทษแบนแต่พวกเขาอาจได้ ลุค โอนีน ฟื้นตัวกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม

เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – วูลฟ์ส (02:00 น.)

สเปอร์ส จะมี ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ กลับมาเป็นตัวเลือกหลังจากที่มีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับต้นขา แต่ รานดัล โคโล่ มูอานี่ ต้องพักต่ออีกหน่อย

โดมินิก โซลันกี้ ก็ยังต้องใช้เวลาที่จะฟื้นตัวต่อไปแต่ก็ใกล้จะคืนสนาม และ ราดู ดรากูซิน ต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ก่อนจะกลับมามีส่วนร่วมได้

กลับกัน วิตอร์ เปเรย์ร่า กุนซือของ วูลฟ์ส จะมีนักเตะให้เลือกใช้งานแบบเต็มสูบสำหรับการเดินทางไปเยือน

เก็บตกสถิติเล็กน้อย

– สเปอร์ส พบกับความพ่ายแพ้มาถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่พบกับ วูลฟ์ส ในลีก (เสมอ 1) แถมเสีย 2 ประตูขึ้นไปตลอดการพบกัน 4 นัดหลังสุด

– กระนั้น วูลฟ์ส พบกับความพ่ายแพ้ตลอด 5 เกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ที่ผ่านมามีอยู่ 3 ทีมที่แพ้รวด 6 นัดแรกนั่นคือ ปอร์ทสมัธ 2009-10, พาเลซ 2017-18 และ นอริช 2021-22

เบน ฟรีคิกฟันธง : สเปอร์ส ชนะ 2-0

ที่มา: soccersuck