JT รับยังมีแพสชั่นเป็นกุนซือ-ตั้งแง่โค้ชผู้ดีได้โอกาสน้อย
จอห์น เทอร์รี่ ยอมรับว่าอาจต้องเลิกล้มความฝันเรื่องการเป็นผู้จัดการทีม หลังจากโอกาสไม่ค่อยเปิดกว้าง โดยเฉพาะกับโค้ชชาวอังกฤษที่ดูเหมือนจะได้รับโอกาสน้อยกว่าโค้ชชาวต่างชาติ
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเริ่มรับงานโค้ชหลังแขวนสตั๊ดในปี 2018 โดยไปเป็นผู้ช่วยของ ดีน สมิธ ที่แอสตัน วิลล่า แต่หลังจาก สมิธ โดนปลดในปี 2021 เขาก็ต้องออกตามไปด้วย ต่อมามีช่วงสั้น ๆ ที่เขากลับไปช่วยงานที่ เชลซี แล้วก็ไปเป็นผู้ช่วยของ สมิธ อีกครั้งที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งจบด้วยการที่ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ตกชั้น
ตอนนี้ เทอร์รี่ ทำงานแบบพาร์ทไทม์ในอะคาเดมี่ของ เชลซี ถึงแม้จะยังไม่ได้รับโอกาสคุมทีมเต็มตัว แต่เขาก็ยังยืนยันว่าความฝันในการเป็นกุนซือยังไม่หายไปไหน
เทอร์รี่ กล่าวว่า “ความหลงใหลของผมไม่เคยลดลงเลย แน่นอน ผมยังอยากเป็นผู้จัดการทีม มันกินเวลาเยอะนะ ผมดูบอลทั้งวัน ดูซ้ำ ทำคอร์ส เรียนรู้อยู่ตลอด ผมใช้เวลารอคอยโอกาสนี้มาตลอดเลย”
“แต่พอยิ่งนานเข้า ก็เริ่มคิดว่าบางทีอาจต้องพอแค่นี้แล้วหันไปโฟกัสอย่างอื่นแทน ผมเคยเป็นกัปตันเชลซี เป็นกัปตันทีมชาติ และพาทีมประสบความสำเร็จหลายรายการ แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครให้โอกาส”
เขายังบอกด้วยว่า “ผมว่าผู้จัดการทีมชาวอังกฤษไม่ได้รับโอกาสเท่ากับชาวต่างชาติเลย หลายคนที่มาจากลีกไม่ใหญ่ แต่กลับได้โอกาสทำทีมในอังกฤษหรือพรีเมียร์ลีก”
“ผมเคยไปสัมภาษณ์กับทีมในลีกล่าง แล้วเขาก็บอกว่าผมยังไม่มีประสบการณ์ ทั้งที่ผมเคยอยู่กับวิลล่าตั้ง 3 ปี ซึ่งกลับดูเหมือนไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ทั้งที่ผมชอบเวลานั้นมาก และผมรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วจริง ๆ ผมทำใบอนุญาตโค้ชครบทุกระดับ ดูบอลตลอดเวลา”
ถึงอย่างนั้น เทอร์รี่ ก็บอกว่าเขายังมีความสุขกับชีวิตตอนนี้ โดยเสริมว่า “ชีวิตผมมีบาลานซ์ดีนะ ตอนนี้ผมทำงานอื่น ๆ นิดหน่อย ใช้เวลากับครอบครัว แล้วก็ไปช่วยฝึกเด็กที่เชลซีบ้าง ผมว่าตอนนี้ผมอยู่ในจุดที่มีความสุขเลยล่ะ”
ที่มา: soccersuck

