โจรขึ้นบ้านทำชีวิตพัง! ‘บิสซูม่า’ ยอมรับผิดสูดแก๊สหัวเราะ
อีฟส์ บิสซูม่า ออกมาเปิดใจถึงประเด็นถูกกล่าวหาว่าสูดก๊าซไนตรัสออกไซด์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แก๊สหัวเราะ” หลังจากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ถูกโจรขึ้นบ้านหลายครั้งในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนมีรายงานว่าเขาสูญเงินและทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 1 ล้านปอนด์
สัปดาห์ก่อน
The Sun
เผยแพร่คลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพของมิดฟิลด์วัย 29 ปีรายนี้กำลังสูดแก๊สไนตรัสออกไซด์ โดยฝั่งสเปอร์สออกมาตอบผ่าน Press Association ว่า “สโมสรรับทราบเรื่องนี้ และกำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะจัดการกันเป็นการภายใน”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บิสซูม่า ต้องเจอกับข้อกล่าวหาในลักษณะนี้ โดยแข้งทีมชาติมาลีที่ย้ายจาก ไบรท์ตัน มาอยู่กับ สเปอร์ส ตั้งแต่ปี 2022 เคยถูกสโมสรสั่งแบนมาแล้วในปี 2024 ซึ่งครั้งนั้นเขาออกมาขอโทษและยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ “ขาดวิจารณญาณอย่างร้ายแรง”
ทั้งนี้ การครอบครองไนตรัสออกไซด์เพื่อการเสพเพื่อความบันเทิง ถือเป็นความผิดทางอาญาในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2023 และอาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี
บิสซูม่า เองก็เคยถูกดร็อปจากทีมจากการมาสายซ้ำ ๆ ก่อนเกมซูเปอร์คัพกับ เปแอสเช เมื่อเดือนสิงหาคม และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟร้งค์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าและข้อเท้า
ล่าสุด บิสซูม่า ออกมาอธิบายว่า เหตุการณ์ถูกงัดบ้านครั้งล่าสุดส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาอย่างหนัก โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับ
The Sun
ว่า “ผมขอโทษจริง ๆ”
“เหตุการณ์นี้มันทำลายบางอย่างในตัวผม ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่ามันจะพังได้ ผมอยากขอโทษแฟนบอลทุกคน ความบอบช้ำทางจิตใจที่มันเข้ามาในชีวิตผม ทั้งความกลัว ความตื่นตระหนก ภาวะซึมเศร้า และความหวาดระแวง”
เมื่อพูดถึงข้อกล่าวหาล่าสุด เขากล่าวต่อว่า “ผมรู้สึกแย่มากกับเรื่องนี้ ผมต้องขอโทษจริง ๆ พอภาพมันถูกเผยแพร่ออกมา มันกระทบทั้งตัวผมและทุกคนรอบตัว โดยเฉพาะครอบครัว”
“ตอนที่พ่อผมเห็นภาพนั้น เขาตกใจมากและรู้สึกไม่ดีเลย ผมพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่ามันเป็นภาพที่ดูรุนแรงก็จริง แต่ไม่ใช่ตัวตนของผม ผมรู้ว่ามันไม่ดีต่อผม ไม่ดีต่อภาพลักษณ์ เพราะผมเป็นนักฟุตบอลอาชีพ”
เหตุโจรกรรมเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยคนร้ายขโมยนาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม และทรัพย์สินมีค่าอื่น ๆ ไปจำนวนมาก ซึ่ง บิสซูม่า ได้ถ่ายคลิปให้เห็นกล่องนาฬิกาที่ว่างเปล่าบนพื้น พร้อมพูดว่า “ดูสิว่าพวกมันทำอะไรกับผมบ้าง พวกมันเข้ามาปล้นผม”
“นาฬิกาของผม…พวกมันเอานาฬิกาไปหมด เครื่องประดับก็โดนเอาไป มันบ้าจริง ๆ สิ่งที่พวกมันทำในห้องผมนี่ ผมไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ ผมแค่…โอ้พระเจ้า”
“ดูนาฬิกาของผมสิ พวกมันเอาไปหมด เครื่องประดับก็เอาไป กระเป๋าก็โดน ทุกอย่างหายเกลี้ยง”
นาฬิกาที่ถูกขโมยไปมีทั้ง Rolex, Audemars Piguet และ Patek Philippe ซึ่งแต่ละเรือนมีมูลค่าสูงถึงหลักแสนปอนด์ ในช่วงหนึ่งของบทสัมภาษณ์ บิสซูม่า ยังพูดด้วยว่า “ผมเป็นคนเข้มแข็ง”
“ผมเป็นผู้ชายแอฟริกันที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ผมเคยผ่านพายุชีวิตมาแล้วหลายครั้ง แต่เหตุการณ์พวกนี้…มันทำลายบางอย่างในตัวผม ที่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะพังได้ ผมถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ‘ทำไมต้องเป็นผม?’ “
“ผมไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องเป็นเหยื่อ แต่สิ่งที่ผมเสียไปมันไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน มันคือสิ่งที่บาดแผลทางใจทิ้งไว้ในชีวิตผม ความกลัว ความตื่นตระหนก ภาวะซึมเศร้า ความระแวง การนอนไม่หลับ และการสูญเสียความไว้ใจตลอดเวลา ผมไม่อยากพูดถึงเรื่อง [ลูกโป่ง] อีกแล้ว เพราะมันจบไปแล้ว แต่กับแฟนบอล ผมอยากขอโทษจริง ๆ”
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า บิสซูม่าถูกขโมยเงินมากกว่า 800,000 ปอนด์จากบัญชี VIP ของธนาคาร Coutts และมีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งถูกตั้งข้อหา โดยความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน 2022 ถึงมิถุนายน 2024 ก่อนที่บิสซูม่าจะตรวจพบความผิดปกติ
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวถึงมิดฟิลด์รายนี้ว่า “เรื่องทั้งหมดนี้ทำร้ายจิตใจ อีฟส์ อย่างมาก มันเป็นปีที่หนักหนาสำหรับเขาทั้งในและนอกสนาม และเรื่องที่ยังคาราคาซังแบบนี้ก็ยิ่งซ้ำเติมเขาเข้าไปอีก”
ที่มา: soccersuck

