เผยภาพ ‘เมสซี่’ กลับคัมป์นูยอดไลค์แซง ‘โด้’ ชูถ้วยเนชั่นส์ลีก
โพสต์ล่าสุดของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่อัปลงอินสตาแกรม ในการกลับมาที่สนาม คัมป์ นู ตอนนี้ยอดไลค์พุ่งแซงหน้าภาพฉลองแชมป์เนชั่นส์ลีกของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ไปแล้วเรียบร้อย
เมสซี่ ร่ำลาแฟนบอลที่ คัมป์ นู ด้วยน้ำตาในปี 2021 หลังสโมสรมีปัญหาการเงินจนไม่สามารถต่อสัญญาได้ ทำให้สุดยอดนักเตะหมายเลขหนึ่งของทีมต้องจำใจเดินจากสโมสรที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก
หลังออกจากบาร์ซ่า เขาไปเล่นให้ทั้งปารีส แซงต์-แชร์กแมง และอินเตอร์ ไมอามี่ แต่หัวใจของ เมสซี่ ก็ไม่เคยออกจากบาร์เซโลน่า เลยจริง ๆ
ล่าสุด เมสซี่ กลับมาเหยียบสนามคัมป์ นู อีกครั้งแบบเงียบ ๆ สนามที่กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงใหม่จวนเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่ทีมชาติอาร์เจนติน่ากำลังเตรียมอุ่นเครื่องกับแองโกล่า ในวันที่ 14 พฤศจิกายน เมสซี่ กับ โรดรีโก้ เดอ ปอล จึงถือโอกาสแวะสนามกันก่อน
เมสซี่ โพสต์ภาพการกลับมาครั้งนี้ลงอินสตาแกรม พร้อมแคปชันซึ้ง ๆ ว่า “เมื่อคืนผมได้กลับมาที่ที่ผมคิดถึงสุดหัวใจ… ที่ที่ทำให้ผมมีความสุขเหลือเกิน ที่ที่พวกคุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ผมหวังว่าสักวันจะได้กลับมาอีกครั้ง และไม่ใช่แค่เพื่ออำลาในฐานะนักเตะ… เพราะผมยังไม่เคยได้ทำเลย ❤️”
โพสต์นี้มียอดไลค์พุ่งทะลุ 25 ล้านภายในเวลาไม่นาน แซงโพสต์ฉลองแชมป์ของโรนัลโด้ที่อยู่ที่ 23 ล้าน ส่วนสถิติโพสต์ที่มียอดไลค์มากที่สุดในโลกยังคงเป็นของเมสซี่จากตอนฉลองแชมป์โลกปี 2022 ที่มีกว่า 74 ล้านไลค์
อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ก็ยังครองอีกหนึ่งสถิติบนอินสตาแกรม คือคอมเมนต์ที่มียอดไลค์สูงที่สุด จากข้อความที่เขาไปตอบใต้โพสต์ประกาศย้ายทีมของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ว่า “ถึงตาฉันต้องดูบ้างแล้ว ตื่นเต้นที่จะได้เห็นนายเฉิดฉายที่เบร์นาเบว #HalaMadrid” ซึ่งมีคนกดไลค์เกิน 5 ล้านครั้ง
แม้การกลับไปเล่นให้ บาร์ซ่า คงเป็นไปได้ยาก แต่ ฮอร์เก้ มาส เจ้าของร่วมของอินเตอร์ ไมอามี่ ก็ยืนยันว่า เขาจะหาทางจัดแมตช์พิเศษให้ เมสซี่ ได้อำลาแฟน ๆ อย่างสมศักดิ์ศรีในคัมป์ นู
“ตอนเมสซี่จากบาร์เซโลน่า เขายังไม่ได้อำลาอย่างที่เขาอยากทำ ผมสัญญาว่าจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้กลับไปบอกลาแฟน ๆ ที่รักเขาในบาร์เซโลน่าให้ได้ ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม”
เมสซี่ เพิ่งต่อสัญญากับ อินเตอร์ ไมอามี่ จนถึงปี 2028 ซึ่งจะทำให้เขาอยู่ในเมเจอร์ลีกจนถึงอายุ 40 ปี และยังมีแนวโน้มว่าจะได้ลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 กับทีมชาติอาร์เจนติน่าอีกครั้ง เพื่อป้องกันแชมป์ที่พวกเขาครองอยู่ในตอนนี้
ที่มา: soccersuck
