‘เบงค์’ ขอสวน! ยัน ‘ผีของพรี่ริม’ ไม่ได้ดีขึ้นเลย

‘เบงค์’ ขอสวน! ยัน ‘ผีของพรี่ริม’ ไม่ได้ดีขึ้นเลย

จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ อดีตดาวเตะเชลซี ยืนยันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีพัฒนาการขึ้นภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม แม้ว่าผลงานของ “ปีศาจแดง” จะดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

อโมริม ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยเกมแรกของเขาจบลงด้วยการเสมอกับ อิปสวิช 1-1 ในอีก 10 วันต่อมา

กุนซือชาวโปรตุเกสต้องพบกับความยากลำบากในการเริ่มต้นชีวิตกับสโมสร จนทำให้เขาต้องออกมาขอโทษแฟนๆ หลังจากที่พาทีมจบอันดับที่ 15 ซึ่งเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในยุค พรีเมียร์ลีก

ทีมของอโมริมยังพ่ายแพ้ให้กับ ท็อตแนม ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก ซึ่งทำให้ทีมพลาดการผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ “ปีศาจแดง” ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้

เท่านั้นไม่พอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตกรอบ คาราบาว คัพ แพ้ให้กับ กริมส์บีั ไปแบบหักปากกาเซียนหมดสวรรค์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นผู้นำของ อโมริม

อย่างไรก็ตาม ผลงานใน พรีเมียร์ลีก ของพวกเขากลับดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

อโมริม ทำผลงานไร้พ่ายติดต่อกัน 5 นัด ก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติ ซึ่งรวมถึงชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล 2-1 ที่ แอนฟิลด์ และเสมอกับ ท็อตแนม ในช่วงท้ายเกมอย่างสุดดราม่าเมื่อวันเสาร์

สถิติดังกล่าวทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับที่ 7 ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ที่เบียดกันชนิดไหล่แทบจะชน ตามหลัง เชลซี อันดับ 3 เพียง 2 คะแนน

ทางด้าน ฮัสเซลเบงค์ อดีตกองหน้าเชลซี ให้สัมภาษณ์กับ

Sky Sports

ไม่เห็นด้วยกระแสที่กำลังไฮป์กันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พัฒนาขึ้นภายใต้การคุมทีมของ อโมริม

ฮัสเซลเบงค์ ซึ่งเคยคุมทีม เบอร์ตัน อัลเบียน, นอร์แทมป์ตัน ทาวน์ และควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส ยืนยันว่า อโมริม ยังมี ‘งานอีกมาก’ ที่จะทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จ

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาพัฒนาขึ้นเลย ผมเสียใจด้วยนะ” ฮัสเซลเบงค์ กล่าว

“พวกเขาพัฒนาขึ้นตรงไหน?”

“พวกเขาไม่ได้ทำประตูได้มากขึ้น ไม่ได้เสียประตูน้อยลง และไม่ได้แชมป์อะไรเลย”

“ใช่ พวกเขาเคยเข้านัดชิงยุโรป แต่แพ้ให้กับทีมที่ฟอร์มตก ท็อตแนม เป็นทีมที่ฟอร์มตกเมื่อปีที่แล้วนะ”

“เขายังมีงานอีกเยอะ งานอีกเยอะเลยล่ะ”

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาสร้างสรรค์เกมได้มากพอ ไม่เหมือนในยุครุ่งเรือง”

ที่มา: soccersuck