เด่นสุดแล้ว! เนฟซูฮก ‘เฮฟเว่น’ คู่ควร MOTM

เด่นสุดแล้ว! เนฟซูฮก ‘เฮฟเว่น’ คู่ควร MOTM

แกรี่ เนวิลล์ ออกโรงยกย่อง เอย์เดน เฮฟเว่น กองหลังดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังทีมเปิดบ้านเฉือนชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0

ประตูชัยจากวอลเลย์สุดสวยของ แพทริค ดอร์กู ช่วยให้ “ปีศาจแดง” ขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก ซึ่งเป็นครึ่งที่พวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยม แต่พอเข้าครึ่งหลัง สถานการณ์กลับตาลปัตร เจ้าบ้านต้องถอยไปตั้งรับเต็มตัว และต้องกัดฟันกันสุด ๆ กว่าจะประคองสกอร์เอาชนะไปได้

ลิซานโดร มาร์ติเนซ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังหายจากอาการเจ็บเข่า แต่คนที่ เนวิลล์ ประทับใจที่สุดกลับเป็น เฮฟเว่น ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่เล่นได้เนี๊ยบไร้ที่ติ

เฮฟเว่น โดดเด่นทั้งการเล่นกับบอล และยิ่งเด่นกว่าเดิมในเกมรับ คอยตัดบอล ดับจังหวะอันตราย รวมถึงเคลียร์ลูกกลางอากาศได้หลายครั้ง จนคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง

เนวิลล์ ซึ่งทำหน้าที่คอมเมนเตเตอร์ให้

สกาย สปอร์ตส์

กล่าวว่า “เขา (เฮฟเว่น) เล่นได้ยอดเยี่ยมมาก เด็กคนนี้สุดจริง ๆ เขาโหม่งสกัดทุกอย่างออกไปหมด และสมควรแล้วกับอ้อมกอดจาก ลุค ชอว์ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช”

อย่างไรก็ตาม เนวิลล์ กลับไม่ปลื้มการตัดสินใจของ รูเบน อโมริม ในครึ่งหลัง หลังทีมต้องลุ้นหนัก และเฮดโค้ชเลือกถอดทั้ง มาร์ติเนซ กับ ชอว์ แล้วส่งดาวรุ่งอย่าง ไทเลอร์ เฟรดริกสัน กับ ไทเรลล์ มาลาเซีย ลงมาแทน

โดยเฉพาะ มาลาเซีย ไม่ได้ลงเล่นให้ทีมมาตั้งแต่เดือนมกราคม และเคยถูกแยกซ้อมจากทีมชุดใหญ่ช่วงซัมเมอร์ร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่

เนวิลล์ ทิ้งท้ายว่า “ผมคิดว่ายูไนเต็ดทำได้ดีกว่าในครึ่งแรก พวกเขาคุมเกมได้ดี แต่พอมีการเปลี่ยนตัวเข้ามา รูปร่างของทีมและผู้เล่นในสนามมันเริ่มดูแปลก ๆ ไปหมด แต่สุดท้ายก็ยังเอาตัวรอดมาได้”

ด้าน เฮฟเว่น ดีใจสุด ๆ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเขาก็ย้ำว่าทีมต้องต่อยอดจากชัยชนะเกมนี้ เพื่อเป้าหมายไปเล่นฟุตบอลยุโรปให้ได้

เฮฟเว่น กล่าวว่า “ในที่สุดก็ได้คลีนชีตสักที เรารอสิ่งนี้กันมานานมาก ผมมีความสุขจริง ๆ และคนนี้เลย (แพทริค ดอร์กู) มีส่วนช่วยสำคัญมาก ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันจนมาถึงจุดนี้”

“ผมภูมิใจในทีมมาก ๆ ผมคิดว่าในฐานะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราควรได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป เราอยากกลับไปอยู่ตรงนั้นให้ได้ในฤดูกาลหน้า และก็หวังว่าจะขยับไปลุ้นท็อปโฟร์ หรือแม้แต่แชมป์ลีก ทุกอย่างมันเป็นไปได้ ถ้าเรายังพยายามกันต่อไป”

ที่มา: soccersuck