วิการ์เอฟเฟคต์! ทีมบอลร้อง FA สั่ง ‘ทุบกำแพง’ รอบสนาม

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้รับการร้องเรียนถึงการห้ามสร้างกำแพงคอนกรีตบริเวณรอบสนามฟุตบอล หลังจากการเสียชีวิตของ บิลลี่ วิการ์ ในสัปดาห์นี้

ดาวเตะวัย 21 ปี ซึ่งเติบโตมาจากอะคาเดมีของ อาร์เซนอล เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรง ขณะเล่นให้กับ ชิเชสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ชิเชสเตอร์ ไปเยือนสนาม วินเกต แอนด์ ฟินช์ลีย์ ซึ่งสนามมีกำแพงอิฐล้อมรอบ ขณะที่การแข่งขันถูกยกเลิกหลังจากเกมผ่านไปได้ 13 นาที

เป็นที่เข้าใจกันว่า วิการ์ ชนเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรงขณะที่พยายามเก็บบอลให้อยู่ในสนาม

ภายหลังข่าวเศร้าในครั้งนี้ สโมสรต่างๆ ได้เรียกร้องให้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ดำเนินการอย่างเร่งด่วนหลังในการกำกับดูแลการรื้อถอนกำแพงคอนกรีตที่อยู่โดยรอบสนามฟุตบอล

“ทุกสโมสรต้องการให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) สั่งให้มีการสอบสวนโดยทันทีเกี่ยวกับบริเวณรอบสนาม” มาร์ค ไวท์ ประธานสโมสรดอร์กกิ้ง วันเดอเรอร์ส กล่าว

“หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นอันตราย และผู้เล่นต้องระมัดระวังอยู่เสมอเนื่องจากอยู่ใกล้กับสนาม แต่บางอย่างมันไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้และเป็นอันตรายถึงชีวิต สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องถูกรื้อถอนโดยทันที”

“พวกเราผู้รักฟุตบอล ขอเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้มีการรื้อถอนกำแพงอิฐและโครงสร้างแข็งอื่นๆ ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้รอบๆ สนามฟุตบอล” คำร้องระบุ

“คำร้องนี้ได้รับแรงผลักดันจากการเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าของ บิลลี่ วิการ์ นักฟุตบอลหนุ่มมากความสามารถผู้ซึ่งชีวิตของเขาต้องจบลงอย่างน่าเศร้าหลังจากการชนกับกำแพงอิฐข้างสนาม การจากไปของบิลลี่ไม่ใช่กรณีแรก มีผู้เล่นมากมายในทุกระดับได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งกระดูกหัก สมองกระทบกระเทือน และบาดแผลทางใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิต อันเป็นผลมาจากกำแพงอันตรายเหล่านี้”

“ฟุตบอลควรเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทั้งความหลงใหล ทักษะ และการมีส่วนร่วม ไม่ใช่ควรเป็นกีฬาที่การล้มเพียงเล็กน้อยหรือการวิ่งผิดจังหวะอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ถึงกระนั้น สนามฟุตบอลหลายแห่ง โดยเฉพาะในระดับรากหญ้าและระดับชุมชน ยังคงถูกล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐหนาทึบที่อยู่ห่างจากเส้นข้างสนามเพียงไม่กี่ฟุต กำแพงเหล่านี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการกีฬาที่สำคัญ แต่กลับก่อให้เกิดอันตรายที่ไม่อาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้”

“การเสียชีวิตของบิลลี่ วิการ์ ควรจะเป็นกรณีสุดท้าย เราเป็นหนี้บุญคุณต่อทุกความทรงจำของเขา และต่อผู้เล่นทุกคนที่ก้าวลงสู่สนามฟุตบอล เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครต้องประสบกับโศกนาฏกรรมที่ไม่จำเป็นเช่นนี้ ฟุตบอลควรเป็นเกมแห่งความสุขและเป็นชุมชน ไม่ใช่สถานที่ที่อันตรายที่พรากชีวิตเด็กๆ ไป”

ที่มา: soccersuck