‘วอล์คเกอร์’ รับเสียใจชิ่งเรือตอนที่ทีมลำบาก
ไคล์ วอล์คเกอร์ ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบอกว่าตอนนั้นในฐานะกัปตันทีม เขาควรจะอยู่เคียงข้างเพื่อนร่วมทีมในช่วงเวลาที่ยากลำบากมากกว่า
ดาวเตะวัย 35 ปี ย้ายไปเล่นให้ เอซี มิลาน เพราะไม่ได้ลงสนามสม่ำเสมอกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทั้งที่ แมนฯ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตก พยายามป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก
แบ็คขวาความเร็วสูงรายนี้ ซึ่งติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 96 นัด เคยคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศกับ “เรือใบสีฟ้า” และมีช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าการจากลาครั้งนั้นยังเป็นแผลในใจมาจนถึงตอนนี้
ตอนนี้ วอล์คเกอร์ กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ เบิร์นลี่ย์ และเปิดใจกับ
Sky Sports
ว่า “ผมควรจะย้ายไป เอซี มิลาน ไหมตอนนั้น? ผมเป็นกัปตันทีม และเมื่อทีมกำลังมีปัญหา คนแรกที่ต้องอยู่รับผิดชอบก็คือกัปตัน”
“ตอนนั้นผมน่าจะอยู่ต่อ อยู่ข้างเพื่อนร่วมทีม เพื่อนที่ผมรักเหมือนครอบครัว แต่ครั้งนั้นผมเห็นแก่ตัวนิดหนึ่ง คิดถึงแค่ตัวเอง เพราะผมอยากลงเล่นฟุตบอล”
“ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเหตุผลที่ผิดนะ แค่ตอนนั้นผมไม่อยากนั่งข้างสนามเฉย ๆ แล้วได้ลงแค่บางนัด ผมยังอยากพิสูจน์ว่าผมเล่นในระดับสูงได้อยู่ และพอทีมอย่างเอซี มิลานเข้ามา ผมก็รู้สึกว่ามันยากจะปฏิเสธ”
“แต่พอกลับมาช่วงซัมเมอร์ ผมก็ได้ทบทวน และแม้จะเสียใจบ้างเรื่องเวลา แต่ก็ไม่ถึงกับเสียใจที่ไป เพราะผมอยากมีประสบการณ์เล่นต่างประเทศอยู่แล้ว ดีใจที่ได้ไปอยู่ที่นั่น 6 เดือน ถึงอาจทำได้ดีกว่านี้ก็ตาม”
ช่วงที่ย้ายไปอิตาลี วอล์คเกอร์ ยังตกเป็นข่าวฉาวเรื่องชีวิตส่วนตัว หลังภรรยา แอนนี่ คิลเนอร์ ฟ้องหย่ากลางกระแสข่าวความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขา
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม เขากลับมาอังกฤษและเซ็นสัญญา 2 ปีกับเบิร์นลี่ย์ โดยเกมกลับไปเจอทีมเก่าในเดือนกันยายนก็ไม่ง่ายนัก เมื่อ เบิร์นลี่ย์ แพ้ แมนฯ ซิตี้ 5-1
ที่มา: soccersuck

