รอผลสแกน! สล็อทไม่รู้ ‘อิซัค’ อาการหนักไหม
อเล็กซานเดอร์ อิซัค เตรียมเข้ารับการสแกน เพื่อเช็กให้ชัดว่าอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกชนะ สเปอร์ส 2-1 นั้นหนักแค่ไหน
อิซัค ลงมาเป็นตัวสำรองต้นครึ่งหลัง และใช้เวลา 11 นาที ก็ยิงประตูปลดล็อกให้ทีมได้ทันที แต่หัวหอกวัย 26 ปี กลับไม่มีโอกาสได้ดีใจกับประตูที่สองในพรีเมียร์ลีกของตัวเอง เพราะโดน มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน สไลด์ใส่จนบาดเจ็บ
สุดท้าย อิซัค ต้องให้ทีมแพทย์ช่วยพยุงออกจากสนาม โดย อาร์เน่อ สล็อท ยอมรับว่าตอนนี้ต้องรอลุ้นกันหนัก ว่าอาการเจ็บช่วงขาส่วนล่างจะทำให้เขาพักนานแค่ไหน
“ผมยังไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับเขาเลย แต่ถ้านักเตะยิงประตูได้ แล้วเจ็บจนกลับมาเล่นต่อไม่ได้ หรือไม่พยายามจะกลับมา มันก็มักไม่ใช่สัญญาณที่ดี” สล็อท กล่าว
“ผมพูดได้แค่นี้ มันเป็นแค่ความรู้สึก ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ ผมยังไม่ได้คุยกับเขา แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เขายิงได้ เป็นประตูสวย ๆ จากแอสซิสต์ของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์”
“อย่าเพิ่งคิดลบกันไป เรายังไม่รู้ผลแน่ชัด หวังว่าอเล็กซ์จะกลับมาได้เร็ว แต่ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้”
ไม่ใช่แค่ อิซัค เพราะชัยชนะนัดนี้ต้องแลกมาด้วยอาการเจ็บของ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ แบ็คขวาที่โดนถอดตั้งแต่พักครึ่ง หลังปะทะกับ เจด สเปนซ์ ในครึ่งแรก
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เองก็เดินกะเผลกออกจากสนามช่วงท้ายเกม แต่ “หงส์แดง” เชื่อว่าเป็นแค่ตะคริวเท่านั้น
ขณะที่ โดมินิค โซบอสซ์ไล ดันไปโดนใบเหลืองที่ 5 ของฤดูกาล ทำให้จะติดโทษแบน อดลงเล่นเกมพบ วูล์ฟส์ ที่แอนฟิลด์ วันที่ 27 ธันวาคมนี้
ส่วน เจเรมี่ ฟริมปง ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาและลงมาแทน อิซัค ก็ถูกเปลี่ยนออกอีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่ง สล็อท ย้ำว่าเป็นแค่การปรับแท็กติก โดยส่ง เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงมาแทน หลังจาก ลิเวอร์พูล ต้องประคองเพื่อปิดเกม ในสถานการณ์ที่ สเปอร์ส เหลือผู้เล่น 9 คน จากใบแดงของ ซาบี้ ซิโมนส์ และ คริสเตียน โรเมโร่
“เจเรมี่ไม่มีปัญหาอะไรเลย ผมแค่ไม่อยากเสี่ยงเหลือ 10 คนอยู่ 30 วินาที เพราะที่อังกฤษ ถ้านักเตะเจ็บต้องออกไปข้างสนาม ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนตัว” สล็อท อธิบาย
“ผมรู้ว่าเวลาเหลือน้อย และเราก็เล่นกันลำบากอยู่แล้ว เลยเลือกส่ง เฟเดริโก้ ลงมา ไม่มีปัญหาอะไรกับ เจเรมี่ ทั้งนั้น”
“ส่วน อเล็กซ์ กับ คอเนอร์ เราต้องรอดูอาการต่อไป คุณเห็นม้านั่งสำรองเราวันนี้แล้ว แต่ช่วงนี้ทุกทีมก็เจอปัญหานักเตะเจ็บเหมือนกัน เพราะโปรแกรมมันถี่มาก”
ที่มา: soccersuck

