ยังไม่วิกฤต! ‘โค้ชขิง’ ชี้ฟอร์มหงส์แค่ขาลง

ยังไม่วิกฤต! ‘โค้ชขิง’ ชี้ฟอร์มหงส์แค่ขาลง

สตีเวน เจอร์ราร์ด วิจารณ์ฟอร์มอันย่ำแย่ของ ลิเวอร์พูล หลังจากต้องเห็น “หงส์แดง” พ่ายต่อ พีเอสวี หมดสภาพ 4-1 คาบ้านเมื่อคืนวันพุธ

ตำนานสโมสรวัย 45 ปี ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ให้กับ

TNT Sports

ที่สนามแอนฟิลด์ และได้สะท้อนถึงฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ปี 1953 หรือเมื่อ 72 ปีก่อน

เมื่อถูกถามว่าทีมของ อาร์เน่อ สล็อท กำลังอยู่ในวิกฤตหรือไม่ เขากล่าวว่า “วิกฤตเป็นคำที่รุนแรงเกินไป และเป็นการไม่ให้เกียรตินักเตะบางคนที่ทำผลงานได้ดีให้กับสโมสรแห่งนี้ รวมถึงผู้จัดการทีมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อสามเดือนก่อน”

“หากผ่านไปหกเดือน หนึ่งปี และเรายังห่างไกลจากความสำเร็จนั้น คุณอาจใช้คำนั้นได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมกำลังดิ้นรนอย่างหนัก พวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่ย่ำแย่ ความมั่นใจตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และแผลพวกเขาก็ยังคงเปิดอยู่”

“เว้นแต่ผู้จัดการทีมจะหาคำตอบและความมั่นคงในทีมได้ ทุกอย่างก็จะดำเนินต่อไป”

ลิเวอร์พูล แพ้สามเกมหลังสุดด้วยสกอร์ห่างกันสามประตู และพ่ายแพ้ถึงเก้าเกมจาก 12 เกมก่อนหน้านี้

ฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ทั่วทั้งสนามในคืนวันพุธ แต่มีนักเตะคนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับ เจอร์ราร์ด ซึ่งไม่ประทับใจผลงานของเขาเลย

มิโลส เคอร์เคซ ซึ่งย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ ยืนตำแหน่งผิดพลาดอย่างร้ายแรง ตามคำกล่าวของ เจอร์ราร์ด

เขากล่าวต่อว่า “ไม่สำคัญว่าจะเป็น โม ซาล่าห์ หรือใครก็ตาม คุณไม่สามารถถูกเลี้ยงบอลผ่านไปง่ายๆ ในสถานการณ์แบบนี้ได้ สำหรับผม เคอร์เคซ ยืนตำแหน่งผิดเกือบตลอดทั้งเกม”

“การเปิดพื้นที่แบบนั้นให้ตัวรุกถือเป็นเรื่องร้ายแรง คุณต้องอยู่ในกรอบเขตโทษ เขาทำลายโอกาสของตัวเอง”

เมื่อถูกถามถึงตำแหน่งของ ซาล่าห์ ในทีม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนละคนกับสตาร์คนสำคัญที่เคยนำพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ เจอร์ราร์ด ยืนยันว่า สล็อท ทำถูกต้องแล้วที่ยังคงรักษาความเชื่อมั่นไว้

“พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ” เขากล่าว “ใครก็ตามที่กำลังคุมลิเวอร์พูลอยู่ตอนนี้จะเลือก โม ซาล่าห์ ลิเวอร์พูลต้องการนักเตะเก่งๆ ทุกคนในสนามเพื่อพยายามหาจุดสมดุล”

“พวกเขาเสียประตูมากเกินไป พวกเขาเปิดพื้นที่มากไปในจังหวะทรานซิชั่น ดูเปราะบางและไม่มั่นคงทันทีที่โดนโต้กลับ”

“แอนฟิลด์ คือเครื่องชี้วัด ที่นั่งว่างเปล่าทั้งที่เหลือเวลาอีก 10 นาที ทันทีที่ประตูที่สามเกิดขึ้น เกมก็จบลง”

ที่มา: soccersuck