ปรัชญาชัด! ‘เชสก์’ ลั่นยอมแพ้ 4-0 ดีกว่าต้องถอยตั้งรับ

ปรัชญาชัด! ‘เชสก์’ ลั่นยอมแพ้ 4-0 ดีกว่าต้องถอยตั้งรับ

เชสก์ ฟาเบรกาส ยืนยันว่าเขาไม่ได้เห็นความต่างด้านฟุตบอลที่มากมายขนาดนั้น ระหว่าง โคโม่ กับ อินเตอร์ มิลาน แม้จะโดนถล่มไป 4-0 พร้อมบอกด้วยว่าตัวเองยอมแพ้แบบนี้ดีกว่าไปตั้งรับแน่น ๆ ด้วยระบบ 5-4-1

โคโม่ ก่อนเกมถือเป็นหนึ่งในทีมฟอร์มแรงของลีก เกมรับดีที่สุด และไม่เคยเสียเกินหนึ่งลูกต่อเกม แต่ล่าสุดโดน อินเตอร์ โหมกระหน่ำไล่ยิงจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, มาร์คุส ตูราม, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู และ คาร์ลอส ออกุสโต้ จบเกมแบบหมดสภาพ

ฟาเบรกาส ให้สัมภาษณ์กับ

DAZN Italia

หลังเกมว่า “สิ่งที่ยากที่สุดตอนนี้คือการอธิบายความพ่ายแพ้ 4-0 แบบหนักหน่วง มันพูดยากจริง ๆ นะ หลายคนอาจไม่ชอบที่ผมพูดแบบนี้ แต่ผมไม่เห็นว่าคุณภาพของทั้งสองทีมต่างกันมากขนาดนั้น สิ่งที่ผมเห็นชัด ๆ คือเกมรุกระดับเวิลด์คลาสของอินเตอร์ต่างหาก”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า อินเตอร์ก็เพรสสูงเก่ง ทำไมถึงไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่น ฟาเบรกาสตอบว่า “ผมก็คิดนะว่าจะเปลี่ยนแผนดีไหม แต่หัวผมบอกว่าไม่ต้อง ผมพอใจกับสิ่งนี้นะ พูดแบบนี้อาจดูเหมือนผมโง่หรือดูแพ้ไปเลยก็เถอะ”

“แต่ผมรู้สึกว่าทีมเราได้เติบโตจากเกมนี้ ซึ่งบางทีตอนคุณชนะ คนจะเรียกคุณว่าอัจฉริยะ แต่คุณกลับเรียนรู้ได้น้อยกว่าอีก หลังแพ้หนัก ๆ แบบนี้ คุณได้บทเรียนเยอะกว่า ได้เห็นหลายอย่างชัดกว่า”

ฟาเบรกาส ยังชี้ว่าผลงานโคโม่ก็ไม่ได้ธรรมดา “อย่าลืมนะว่า 38 เกมหลังสุดในเซเรีย อา โคโม่เก็บได้ 60 แต้ม นั่นถือว่าสุดยอดแล้ว วันนี้เราแพ้ให้ทีมที่แข็งแกร่งมาก ๆ ก็เท่านั้น คุณจะตั้งรับแบบ 6-3-1 หรือ 5-4-1 ก็ได้ แต่สำหรับผม แพ้แบบนี้ยังดีกว่าพากันถอยไปอุดแบบนั้นเสียอีก”

โคโม่ มีสถิติไม่แพ้ใคร 11 นัดติด และก่อนเกมตาม อินเตอร์ แค่ 3 แต้มเท่านั้น แต่เกมนี้ก็ทำให้ความหวังสะดุดพอสมควร ทว่าแนวทางของ ฟาเบรกาส จะยังไม่เปลี่ยน

“อินเตอร์มีโอกาสยิงสามครั้งใน 20 นาทีแรก ไม่ใช่เพราะการเพรสซิ่งเราแย่หรอก แต่เพราะบอลยาวต่างหาก เราแย่งบอลคืนได้หลายครั้ง เล่นด้วยความกล้า และพยายามสู้แบบเปิดหน้าแลก”

“ถ้าคุณเพรสสูงใส่บาร์เซโลน่าที่มี ชาบี้, อิเนียสต้า, เมสซี่ ก็เหมือนกันแหละ เจอคู่แข่งที่โหดมาก ๆ เขาก็หลุดเพรสได้ มันคือสิ่งที่ผมเตือนทุกคนไว้แล้ว”

“สิ่งที่เราต้องเรียนรู้คือวิธีจัดการกับความหงุดหงิดเวลาโดนบีบแบบนั้น ผมอยู่ใกล้ ๆ บาสโตนี่ และ ดิมาร์โก้ พวกเขาเล่นกันแบบรู้ใจหมดทุกจังหวะ ในฐานะโค้ช ผมก็ได้เรียนรู้จากตรงนี้เยอะมาก”

ที่มา: soccersuck