‘ซีอีโอพรีเมียร์ลีก’ เผยรอโหวตเปลี่ยนกฎการเงิน
ริชาร์ด มาสเตอร์ ซีอีโอ พรีเมียร์ลีก เผยว่าเร็วๆนี้จะมีการประชุมเกิดขึ้นเพื่อตัดสินใจว่าควรเปลี่ยนกฎ PSR เป็นกฎใหม่ที่ใกล้เคียงกับของ ยูฟ่า แทนดีหรือไม่
กฎ PSR ถูกนำมาใช้กับพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 เพื่อป้องกันสโมสรใช้จ่ายเงินมากเกินไป แต่ก็ยังมีทีมทำผิดกฎและสโมสรเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด รวมถึง แอสตัน วิลล่า ไม่เห็นพ้องกับการใช้กฎนี้
มาสเตอร์ส บอกว่ากฎที่อาจมาแทน PSR จะมีความใกล้เคียงกับกฎการเงินของ ยูฟ่า ที่กำหนดให้แต่ละสโมสรใช้เงินไปกับค่าเหนื่อย, ค่าตัวนักเตะและค่าเอเยนต์ได้ไม่เกิน 70 เปอร์เซนต์ของรายได้
อย่างไรก็ตามหาก พรีเมียร์ลีก นำระบบนั้นมาใช้ ก็จะเพิ่มเพดานค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นเป็น 85 เปอร์เซนต์ของรายได้
“เรากำลังคุยกับสโมสรในลีกของเราถึงอีกระบบนึง นี่ไม่ได้หมายถึงเรามองว่า PSR ไม่เวิร์คนะ” มาสเตอร์ กล่าวในงานสัมนาผู้นำทางด้านกีฬา
“มันเป็นเรื่องของการทำให้ระบบใกล้เคียงกับกฎของยุโรปซึ่งใช้ระบบอัตราส่วน เป็นการทดสอบด้วยรายได้”
“สำหรับ PSR นั้นเป็นการทดสอบทางด้านกำไรและมันมีจุดเด่นจุดด้อยของมันเอง ไม่มีระบบไหนเพอร์เฟ็คท์หรอก”
“เราต้องรักษาความสมดุลให้กับหลายๆสิ่งและพูดคุยกับสโมสรในลีกของเราต่อไป มันเป็นการตัดสินใจอันสำคัญดังนั้นเราควรใช้เวลาตัดสินใจให้ถูกต้อง แต่การตัดสินใจกำลังจะเกิดขึ้นนะ”
ลีกสูงสุดแดนผู้ดีเป็นลีกฟุตบอลที่กวาดรายได้มากสุดในโลก เพียงแค่รายได้ลิขสิทธิ์ในประเทศจากการถ่ายทอดสดระหว่างปี 2025-2029 ก็สูงถึง 6.7 พันล้านปอนด์แล้ว
“กฎของยูฟ่ากำหนดเพดานไว้ที่ 70 เปอร์เซนต์ของรายได้ ระบบของเราจะกำหนดไว้ที่ 85 เปอร์เซนต์เพราะเราอยากให้สโมสรมีศักยภาพในการลงทุน”
“ดังนั้นเมื่อคุณเอาระบบของ พรีเมียร์ลีก ที่กำหนดไว้ 85 เปอร์เซนต์มาเทียบ, ถ้ามีการเปลี่ยนกฎนะ, เอากฎของเราไปเทียบกับลีกใหญ่ลีกอื่นของยุโรป เรามีระบบที่ปล่อยให้ทุ่มเงินมากกว่า บางคนอาจบอกว่ามากเกินไปด้วยซ้ำ”
“พรีเมียร์ลีก ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการลงทุนที่หลั่งไหลมาจากระดับนานาชาติ เราไม่อยากปิดกั้นสิ่งนั้น”
เดิมทีกฎใหม่มีแผนจะนำมาใช้ในฤดูกาลนี้แต่ก็ถูกเลื่อนออกไป โดยสโมสรในพรีเมียร์ลีกจะลงคะแนนโหวตกันในเดือนหน้า
ที่มา: soccersuck

