‘คุนญ่า’ ถ่อมไม่ใช่ ‘นิวก็องโต้’-กร้าวกู้คืนความยิ่งใหญ่ผี
มาเธอุส คุนญ่า ประกาศชัดว่าเขามุ่งมั่นจะพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ดาวเตะชาวบราซิลกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุค รูเบน อโมริม ในซีซั่นนี้ แต่เจ้าตัวบอกว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม แต่ คุนญ่า ก็รีบปฏิเสธเสียงชื่นชมที่เปรียบเขากับตำนานอย่าง เอริค คันโตน่า
คันโตน่า คือหนึ่งในแข้งผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด พาทีมกวาดความสำเร็จในยุคทองภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
โดยก่อนหน้านี้ สตีเฟ่น วอร์น็อค อดีตกองหลังพรีเมียร์ลีก เคยบอกว่า คุนญ่า มีออร่า คล้าย คันโตน่า ส่วนซีอีโอของสโมสร โอมาร์ เบร์ราด้า ก็เคยพูดว่าแข้งวัย 26 ปีรายนี้จะเป็น “คันโตน่าคนใหม่ของยุคนี้”
แต่ คุนญ่า กลับตอบอย่างถ่อมตัวกับ
The Sun
ว่า “ว้าว… เขาเป็นนักเตะที่สุดยอดมาก ผมยังต้องทำอะไรอีกเยอะกว่าจะถูกนำไปเทียบกับเขาได้”
“เวลามีใครพูดแบบนั้น ผมจะพยายามมองในมุมดี ๆ คือเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเล่นด้วยความทุ่มเทเหมือนเขา ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ถูกพูดถึงร่วมกับชื่อของคันโตน่า เขาสร้างประวัติศาสตร์ไว้ และถ้าผมทำได้แค่ส่วนเล็ก ๆ ของสิ่งที่เขาเคยทำ ผมก็คงมีความสุขมากแล้ว”
คุนญ่า เสริมอีกว่าตอนนี้เขามีสมาธิอย่างเดียวคือ “พายูไนเต็ดกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง”
ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล เคยพยายามคว้าตัว คุนญ่า ไปร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคม แต่เจ้าตัวเลือกต่อสัญญากับ วูล์ฟส์ โดยมีเงื่อนไขค่าฉีกสัญญาที่ “ปีศาจแดง” มาใช้งานในซัมเมอร์นี้ ตอนนี้เขาหวังจะสร้างความฝันของตัวเองที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
คุนญ่า กล่าวเพิ่มเติมว่า “แน่นอนว่าผมก็มีช่วงเวลายากลำบากเหมือนทุกคน แต่ผมพยายามมองทุกอย่างในมุมบวก ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นแรงกดดันเลยกับการเล่นให้สโมสรใหญ่แบบนี้”
“ผมแค่อยากทำในแบบของผม อยากช่วยทีม และอยากสร้างความฝันของตัวเองให้สำเร็จ ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสร — แค่นั้นผมก็เต็มที่แล้ว”
น่าสนใจว่าฤดูกาลก่อน คุนญ่า เคยสร้างฝันร้ายให้ ยูไนเต็ด ในสีเสื้อวูล์ฟส์ โดยคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ทั้งสองเกมที่เจอกัน ยิง 1 จ่าย 1 ในเกมชนะ 2-0 และมีส่วนสำคัญในเกมบุกชนะ 1-0
เมื่อถูกถามว่าตอนย้ายมาทีมใหม่ เพื่อน ๆ โล่งใจกันไหม เขายิ้มตอบว่า “แน่นอน ทุกคนพูดเหมือนกันว่า ‘ดีใจที่นายอยู่ฝั่งเราแล้วนะ’ (หัวเราะ) เพราะตอนเล่นเจอกัน มันยากมากจะเอาบอลจากผมได้เลย พอพูดถึงเกมนั้น ผมก็ยังเขิน ๆ อยู่นะ แต่ช่วงเวลาแบบนั้นมันช่วยให้เราสนิทกันมากขึ้นจริง ๆ”
ที่มา: soccersuck

