‘แบลตเตอร์’ จวก FIFA ทำฟุตบอลหลุดมือให้ซาอุฯ

‘แบลตเตอร์’ จวก FIFA ทำฟุตบอลหลุดมือให้ซาอุฯ

เซ็ปป์ แบลตเตอร์ อดีตประธานฟีฟ่า เชื่อว่าฟุตบอลได้ตกเป็นของซาอุดีอาระเบียไปแล้ว พร้อมวิจารณ์องค์กรเก่าของตัวเองที่ไม่แสดงท่าทีคัดค้านใด ๆ กับบทบาทของชาติจากตะวันออกกลางในวงการลูกหนัง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกชายปี 2034 โดยไม่มีชาติใดยื่นข้อเสนอแข่งขันเลย

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซาอุฯ ลงทุนมหาศาลในวงการฟุตบอล ทั้งการให้กองทุน PIF เข้าเทคโอเวอร์สโมสรยักษ์ใหญ่ 4 ทีมในลีกประเทศตัวเอง (อัล-ฮิลาล, อัล-อิตติฮัด, อัล-อาห์ลี และ อัล-นาสเซอร์) รวมถึงเคยซื้อหุ้น 85% ของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก

ยังมีดีลมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์กับ DAZN ที่ตอนนี้ PIF มีส่วนถือหุ้นอยู่ ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดรายการฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ แบบใหม่ที่เพิ่งจัดที่สหรัฐอเมริกาในซัมเมอร์นี้

แบลตเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับสถานี ntv ของเยอรมนีว่า “เราทำให้ฟุตบอลตกไปอยู่ในมือของซาอุฯ เราเป็นฝ่ายยื่นให้เขาเอง แล้วเขาก็รับไป ที่น่าตกใจกว่าคือในฟีฟ่ากลับไม่มีใครคัดค้านเลยสักคน”

นอกจากนี้เขายังแสดงความกังวลต่อการแข่งขันฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รูปแบบใหม่ที่มีถึง 32 ทีม โดยบอกว่า “ฟุตบอลเยอะเกินไป นักเตะและสโมสรเดิม ๆ โดนใช้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ”

แบลตเตอร์ ยังพูดถึงสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงแข่งขันว่าไม่เหมาะสมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้สหภาพนักเตะอาชีพ FIFPRO ก็เคยออกมาเรียกร้องให้ฟีฟ่าพิจารณาเปลี่ยนเวลาเตะ เพราะกลางวันร้อนมาก แต่ฟีฟ่ากลับเลือกเวลาเพื่อเอาใจผู้ชมในยุโรปและเอเชีย

เขายังวิจารณ์การบริหารของประธานฟีฟ่าคนปัจจุบัน จานนี่ อินฟานติโน อีกด้วยว่า “ทุกอย่างตอนนี้ทำผ่านระบบออนไลน์หมด ไม่มีใครกล้าแสดงความเห็นอะไรทั้งนั้น จะมาช้าไป 6 ชั่วโมงก็ไม่มีใครว่าอะไร”

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การประชุมใหญ่ฟีฟ่าที่ปารากวัยต้องเลื่อนออกไป เพราะ อินฟานติโน่ ยังไม่มาถึง เนื่องจากเขาเดินทางไปพบ โดนัลด์ ทรัมป์ และต่อด้วยการเยือนซาอุฯ กับกาตาร์

ถึงแม้ แบลตเตอร์ เองก็เคยมีประวัติด่างพร้อยสมัยเป็นประธานฟีฟ่าตั้งแต่ปี 1998 โดยเฉพาะกรณีคอร์รัปชัน และการมอบสิทธิ์จัดฟุตบอลโลก 2018 ให้รัสเซีย และ 2022 ให้กาตาร์ ซึ่งตัวเขาเองยังเคยยอมรับภายหลังว่า “การให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพถือเป็นความผิดพลาด”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 ศาลอุทธรณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดสินให้ แบลตเตอร์ และมิเชล พลาตินี่ อดีตประธานยูฟ่า พ้นผิดจากข้อกล่าวหาทางการเงินที่เคยทำให้ทั้งคู่โดนฟีฟ่าแบนยาวถึง 6 ปี

ทั้งคู่ยืนยันว่าการโอนเงิน 2 ล้านฟรังก์สวิสที่ถูกพูดถึงนั้น เป็นค่าจ้างที่ค้างชำระมาตั้งแต่ช่วงปี 1998–2002 ซึ่งฟีฟ่ายังไม่มีเงินพอจะจ่ายในตอนนั้น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องผลประโยชน์ทางเลือกตั้งแต่อย่างใด

ที่มา: soccersuck

©2024 one2ball