‘วิคาริโอ’ ชี้สถานการณ์ไก่แย่ลงหลัง ‘แฟนโห่ไล่’

กูเญลโม่ วิคาริโอ นายทวารตัวเก่ง”ไก่เดือยทอง” ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ เชื่อว่า แฟนบอลของพวกเขาเองเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้นักเตะสูญเสียความเยือกเย็นและปากเสียงกับผู้จัดการทีม

นายด่านวัย 29 ปี รายนี้ ถูกแฟนบอลสเปอร์สบางส่วนโห่ใส่พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม หลังทีมของ โธมัส แฟรงค์ พ่ายคาบ้านให้เชลซี 0-1 ในศึกลอนดอนดาร์บี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

จุดเดือดของเกมเกิดขึ้นช่วงท้าย เมื่อ เฌด สเปนซ์ และ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น ปฏิเสธที่จะจับมือกับผู้จัดการทีม โดยจากการอ่านริมฝีปากของผู้เชี่ยวชาญ เจเรมี่ ฟรีแมน ที่เปิดเผยกับ Daily Mail ว่า สเปนซ์พูดกับกุนซือของเขาว่า “ผมไม่ทำ… ไปให้พ้น” ก่อนจะปัดมือและเดินหนี ขณะที่ ฟาน เดอ เฟ่น ก็เดินออกมาแบบไม่สบอารมณ์

สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของ แฟรงค์ แย่ลงไปอีก โดยทีมของเขาชนะเพียง 1 นัดจาก 5 เกมหลังสุด และกำลังเตรียมเผชิญศึกหนักในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอฟซี โคเปนเฮเกน ในคืนวันอังคารนี้

อย่างไรก็ตาม วิคาริโอ ได้ออกมาบอกว่า แฟนบอลก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อผลงานของนักเตะในสนามเช่นกัน

“ในบางช่วงของเกม โดยเฉพาะตอนที่เรากำลังไล่ตาม เราควรเยือกเย็นกว่านี้ และถ้าเราได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนบอลในสนามเพิ่มขึ้นอีกนิด มันอาจช่วยได้มากขึ้น”

“แต่เราควบคุมสิ่งนั้นไม่ได้อยู่แล้ว สุดท้ายทุกคนก็ผิดหวัง เพราะเราพ่ายในเกมดาร์บี้ลอนดอนอีกครั้ง ทุกคนเจ็บปวด และแฟนบอลก็แสดงออกถึงความเจ็บปวดของพวกเขา นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในทุกสนามทั่วโลก เราเข้าใจดี แค่รู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันเท่านั้นครับ”

หลังจบเกม แฟรงค์ พยายามลดความรุนแรงของเหตุการณ์ที่ลูกทีมเมินใส่ โดยบอกว่า

“นักเตะทุกคนก็หงุดหงิดเป็นธรรมดา พวกเขาอยากทำให้ดี อยากชนะ อยากโชว์ฟอร์มให้ดี ผมเข้าใจได้”

ก่อนที่ต่อมาเขาเปิดเผยว่า สเปนซ์ และ ฟาน เดอ เฟ่น ได้มาขอโทษเขาในวันรุ่งขึ้น

“มิกกี้กับเฌดเข้ามาหาผมเองโดยไม่ได้มีใครบอก พวกเขาบอกว่าอยากขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่อยากให้มันดูแย่หรือดูไม่ให้เกียรติเลย มันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นเลย ทั้งต่อผม ทีม หรือสโมสร พวกเขาแค่หงุดหงิดกับฟอร์มและผลการแข่งขัน รวมถึงเสียงโห่จากแฟนๆ ระหว่างเกมเท่านั้น”

แฟรงค์ ยืนยันว่าเขายอมรับคำขอโทษและถือว่าเรื่องนี้จบแล้ว พร้อมทั้งพูดถึงเสียงโห่ของแฟนบอลในเกมพ่ายเชลซีว่า

“ผมอยากชี้ให้เห็นว่า แฟนๆ ของเราสุดยอดมากในช่วง 30 นาทีแรกของเกม เสียงเชียร์มันสุดยอดจริงๆ และช่วยผลักดันเราไปข้างหน้า”

“ดูเหมือนว่าจุดเปลี่ยนจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเสียประตู ทุกคนก็เริ่มหงุดหงิด ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

“มันก็แฟร์ดีนะครับ เพราะเราทำงานในวงการนี้ ต้องรับแรงกดดันได้ ถ้ารับคำวิจารณ์หรือความกดดันไม่ได้ เราก็ไม่ควรอยู่ตรงนี้ฎ”

“เราทุกคนรักฟุตบอลและอยากมีส่วนร่วมกับเกม มันยอดเยี่ยมเวลาได้เล่นต่อหน้าฝูงชนในแมตช์ใหญ่ๆ แฟนบอลยอดเยี่ยมมากในช่วงต้นเกม และหลังเกมถ้าเราเล่นไม่ดีแล้วแพ้ เขาจะโห่ใส่ก็ถือว่าแฟร์”

เขายังเสริมในแนวเดียวกับวิคาริโอว่า

“แต่ระหว่างเกม เราต้องการความช่วยเหลือจากแฟนๆ สักหน่อย โดยเฉพาะเวลาที่เกมมันไม่เป็นใจ แฟนๆ สามารถเป็นจุดเปลี่ยนได้เลย ถ้าเราโดนนำ 1-0 เหลืออีก 15 นาที แล้วแฟนช่วยเชียร์กระตุ้นเราเต็มที่ เราอาจตีเสมอได้”

“ลองคิดดูว่ามันจะรู้สึกดีแค่ไหน แต้มเดียวที่ได้มานั้นอาจเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างในฤดูกาลยาวๆ นี้ก็ได้”

ที่มา: soccersuck